
.
.
Nanning Self-Help Travel-หนานหนิงเมื่อเที่ยวเอง
.
18 มกราคม 2562
.
สวัสดีครับ
.
ทริป 12 วันนี้ เราแบ่งออกเป็น 2 หมวด คือ
.
- หมวดแรก หนานหนิง 4 วัน (เท่ากับ 3 วันครึ่ง เพราะวันแรกถึงเกือบทุ่ม)
.
- หมวดสอง กุ้ยหยาง 5 วัน (เท่ากับ 4 วันครึ่ง เพราะนั่งรถไฟไฮสปีด 5 ชั่วโมงกว่า ถึงเอา 4 โมงเย็น)
.
- หมวดสาม หนานหนิงก่อนกลับ 3 วัน (เท่ากับ 2 วันหน่อยๆ เพราะวันแรกถึงเกือบบ่าย 3 โมง)
.
โดยทริปนี้ เป็นทริปผ่อนคลายล้วนๆสำหรับผม และเป็นทริปช้อปเน้นๆสำหรับสองสาว คือพี่สาวและคุณนายเคท โดยพี่สาวเพิ่งทราบว่าเมืองจีนเพิ่งพัฒนาอย่างหนานหนิงเนี่ย น่าเที่ยวน่าทานแถมของน่าซื้อเพราะถูกมากๆอีกต่างหาก เวลาส่วนใหญ่จึงหมดไปกับการออกไปช้อปกันเนื้อๆของ 2 สาวที่ว่าครับ
.
หลังๆนี้ เที่ยวจีนส่วนใหญ่ เราใช้รถประจำทางและจะไปไกลสุดด้วยรถประจำทาง จึงอยู่ในวงล้อมของเขตเมืองแทบทั้งหมด อะไรที่ต้องเหมารถไปหรือใช่เวลามากเกิน เราก็ไม่ไปโดยไม่สนใจเลยว่าจะพลาดอะไรที่ชาวทัวร์เค้าไปกันบ้าง เพราะทุกอย่างที่เป็นชนิดเดียวกัน เราก็ผ่านตาสุดยอดของเค้ามาแล้วทั้งนั้น จึงหาความสุขจากการตระเวณในเมืองเป็นหลัก พูดคุยกับคนท้องถิ่นด้วยความเอ็นจอย และทานอาหารบ้านๆอย่างสนุกสนานอิ่มท้องอิ่มใจครับ
.
ด้วยเหตุนี้ 7 วันในหนานหนิง และ 5 วันในกุ้ยหยาง จึงไม่ได้ไปในที่ที่ส่วนใหญ่ทัวร์พาไปเลย พูดง่ายๆก็คือ กรำประสบการณ์เต็มที่กับประมาณ 30% ที่ทัวร์ไม่เคยไปกันหรือแทบจะไม่รู้จัก เพราะไปแล้วไปซ้ำเมื่อชื่นชอบ แถมซอกซอนไปเรื่อยๆตามกำลังเท้า ซึ่งในสภาวะแวดล้อมที่ฝนตกเกือบครึ่งทริป ต้องกางร่มเดินช้าๆ น่าจะทำให้รู้จัก 2 เมืองนี้ดีพอ.... แต่แหล่งท่องเที่ยวที่ชาวทัวร์ไปๆกันแทบไม่รู้จักเลยครับ แหะแหะ
.
เพราะฉะนั้น เพื่อนๆที่อยากเที่ยว "ที่ดัง" ของแต่ละถิ่น ซึ่งต้องนั่งรถยนต์รถไฟไปกลับเป็นหลายๆชั่วโมง ผนวกด้วยค่าเข้าที่ แสนแพง (ตามสไตล์จีน) ขอเรียนว่า ต้องทรมานทรกรรมไปกันเองแบบสมบุกสมบันเล็กๆ ใช้จ่ายเยอะหน่อย หรือไม่งั้น ก็ต้องไปกับทัวร์ สู่สถานที่ที่ไปกันแป๊บๆ วันละหลายที่และย้ายที่นอนบ่อยๆเอาอ่ะครับ
.
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวในเขตเมืองที่ทัวร์พาไปและเราก็ได้ไปนั้น เวลาที่ใช้ย่อมต่างกัน อาทิ อุทยานชิงซิ่วซัน ทัวร์คงไปไม่เกิน 2 ชั่วโมง ในขณะที่เราใช้เวลาทั้งวันก็ยังรู้สึกว่าไม่ถ้วนทั่วดีพอ (เพราะฝนพรำ) ครับ
.
หนานหนิง-กุ้ยหยาง ที่เที่ยวเองแบบผ่อนคลาย (ชอบใจก็ไปอีก) กับ เที่ยวเองแบบหาแต้ม (เหมือนๆจะไม่ได้ไปอีกแล้ว) และ เที่ยวกับทัวร์ จึงไม่เหมือนกันตามสไตล์ความชอบของคนเราที่ไม่เหมือนกัน แม้จะใกล้กรุงเทพฯแค่เนี้ยอ่ะครับ
.

.
.
แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในสายตาของชาวทัวร์ และนักเที่ยวเองแบบหาแต้ม ที่เราไม่ได้ไปเลยเพราะต้องนั่งรถไกล (และไม่ต่างจากที่เคยผ่านตาที่อื่นเท่าไหร่) ก็มีดังนี้ครับ
.
- น้ำตกเต๋อเทียน (หรือบั่นก๊วก ในภาษาเวียตนาม) ที่ว่ากันว่าใหญ่ติดอันดับ 1 ของเอเซีย (อันดับ 2 คือ ทีล่อซู ที่ตากของเรา) ครับ
.
- อุทยานหมิงซื่อ ที่มีรายการล่องแพไม้ไผ่ด้วย
.
- เที่ยวบ่อน้ำพุห่าน อุทยานเอ๋อฉวน เมืองจิ๋งซี
.
- เที่ยวถ้ำคริสตัล ถ้ำร้อยนก หมู่บ้านอายุวัฒนะ เมืองปาหม่า
.
ดังภาพในแผนที่ จะเห็นได้ว่า น่าจะต้องค้างคืนที่ไหนซักแห่งเพื่อไม่ให้ย้อนไปย้อนมา ซึ่งสุดท้ายก็เหลือให้เที่ยวในเมืองหนานหนิงเพียงวันเดียวไม่เกิน (เมื่อไปกับทัวร์) ครับ
.

.
7 วันในหนานหนิง สำหรับ 2 สาว จึงเป็นเรื่องช้อป เรื่องหาของอร่อยทาน และเที่ยวห้างล้วนๆแบบไปแล้วไปอีก ไปซ้ำไปซาก ในขณะที่ผมขอตัวแยกไปเที่ยวเองตามสถานที่สำคัญๆในเขตเมืองบ้าง
.
ก็จะให้ทำอย่างไรเล่าครับ สารพัดห้าง สารพัดแหล่งเครื่องแต่งกายค้าส่ง สารพันของทาน ล้วนเป็นที่ตื่นตาตื่นใจ เป็นของชอบ ของนิยมของทั้ง 2 ท่านเนื้อๆโดยไม่เคยหวั่นว่าจะหลงทาง เพราะมีนามบัตรโรงแรม การ์ดเข้าห้องพัก และค่ารถแท๊กซี่อยู่ในกระเป๋าเสมอนี่ครับ
.

.
แหล่งท่องเที่ยวที่ได้ไปร่วมกัน อันถือว่าเป็นอันดับหนึ่งในตัวเมือง คือ ชิงซิ่วซัน-อุทยานเขาสดสวย ที่ใช้เวลา 1 วันเต็มๆด้วยความถูกใจแม้จะต้องหลบฝนเป็นบางครั้งก็ตาม
.
ซึ่งรายละเอียด ต้องขอว่ากันต่างหากอักครั้งหนึ่งภายหลังนะครับ
.

.
ณ ที่นี่ ก็ขอให้ข้อมูลเพียงว่า จากในเมืองสามารถไปยัง ชิงซิ่วซัน ด้วยรถประจำทางหลายสายด้วยกัน อาทิ....
.
จากโรงแรมที่เราพัก (ใกล้สถานีรถไฟ) สามารถไปด้วยรถเมล์สาย 72 ฝั่งตรงข้าม หรือสาย 71 ที่อีกมุมถนนได้ โดยลงรถที่ ประตูเหนือ-北门-เป่ยเหมิน ของ ชิงซิ่งซัน แล้วเดินเข้าไป ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีครับ
.
หรือนั่งรถใต้ดินสาย 1 จากประตูทางออก C ไปที่ป้าย วั่นเซี่ยงเฉิง-Wanxiang City-ห้างใหญ่หมื่นช้าง แล้วต่อรถเมล์ประจำทางที่นั่น สาย 121 หรือ 72 อีกที ก็ใช้เวลาประมาณกันคือ 50 นาทีครับ
.

.
หรือจะนั่งสาย B10 ที่หน้าสถานีรถไฟหนานหนิงก็ได้ ซึ่งเร็วขึ้นหน่อย ลงรถที่ ประตูเหนือของ ชิงซิ่งซัน แล้วเดินเข้าไป ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีครับ
.

.
ส่วนค่าเข้าประตูถือว่าถูกมากๆ แค่คนละ 20 หยวน เรา 3 คนซื้อคนเดียวคือคุณนาย ส่วนผมและพี่สาวเข้าฟรีในฐานะ สมาชิกวุฒิสภา ที่ย่อว่า ส.ว. ครับ อิอิ
.
อย่างไรก็ตาม ภายในอุทยานนั้นกว้างมาก ค่ารถกอล์ฟท์-电瓶车-เตี้ยนผิงเชอ วิ่งรอบๆ เที่ยวละ 5 หยวน ในขณะที่มีจุดสำคัญให้ขึ้นลงมากกว่า 7 แห่ง เราก็เลยต้องซื้อตั๋วค่ารถแบบเหมารวม-通票-ทงเพี่ยว คนละ 34 หยวน (ทุกคน ไม่มีลด) เพื่อขึ้นลงกี่เที่ยวก็ได้ หรือหากจะนั่งรถไฟเล็ก-小火车-เสียวหั่วเชอ ที่วิ่งทับเส้นกัน ค่าตั๋วตลอดทางก็คนละ 50 หยวน...เพื่อนๆคงเดาออกนะครับว่าเราจะขึ้นรถไฟเล็กหรือเปล่า อิอิ
.

.
ที่หนานหนิง มีพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง แต่แห่งหนึ่งที่ห้ามพลาดและชาวทัวร์ก็ไปกัน คือพิพิธภัณฑ์ระดับมณฑลกว่างสี คือ Guangxi Museum of Nationalities-พิพิธภัณฑ์ชนเผ่าต่างๆในกว่างสี (มีชนเผ่า จ้วง-状 ที่พูดหลายคำเหมือนคนไทย เช่น ไป ไม่ไป ฯลฯ)
.
ง่ายๆก็คือ นั่งรถจากไหนก็ได้ไปที่ 青山菜市-ชิงซันช่ายซื่อ-ตลาดผักชิงซัน แล้วต่อรถเมล์เล็ก สาย W8 ไปอีก 10 กว่าป้าย พอถึงศาลเจ้าขงจื้อ ก็อีกป้ายเดียวถึงครับ ค่ารถคนละ 2+2 เป็น 4 หยวนครับ
.
ที่นี่ น่าจะใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงตามห้องต่างๆ และนอกพิพิธภัณฑ์อีกประมาณ 1 ชั่วโมงครับ (ผมไปเอง 1 ครั้ง พา 2 สาวไปอีก 1 ครั้ง)
.

.
หมู่บ้านชนเผ่าต่างๆในกว่างสี-广西民族村-กว่างซีหมินจุ๊ชุน อยู่ด้านหลังของพิพิธภัณฑ์ฯ เป็นสถานที่จำลองหมู่บ้านแบบต่างๆและมีการแสดงในเทศกาลที่สำคัญๆด้วย สภาพแวดล้อมและสิ่งปลูกสร้างต่างๆสวยงามน่ารักมากๆ
.
ตอนนี้เข้าชมฟรี อีกหน่อยอาจต้องเสียเงินบ้าง โดยน่าจะเริ่มตอนตรุษจีนที่จะถึงนี้ครับ เพราะเห็นตกแต่งกันใหญ่เลย
.

.
ห้างใหญ่ที่สุดในหนานหนิง ไม่แพ้ เมกกะบางนา ของเรา ก็คือ ห้างของมหาเศรษฐี เครือ 万达-วั่นต๋า ซึ่งมีห้างเอย โรงแรมเอย แหล่งบันเทิงต่างๆเอย ทุกเมืองในประเทศจีน
.
ที่นี่เค้าสร้างเป็นเหมือนอุโมงค์กลายๆ สีสันฉูดฉาดกว่าสนามบินสุวรรณภูมิของเรา เสาร์อาทิตย์และวันหยุดราชการ ผู้คนหลั่งไหลมาตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะครอบครัวที่พาเด็กๆมาวิ่งเล็กเจี๊ยวจ๊าวกันอ่ะครับ
.
สามารถนั่งรถเมล์เล็กสาย W8 ไปจากพิพิธภัณฑ์อีก 6-7 ป้าย เรียกว่าอยู่นอกเมืองทีเดียว และจากในเมืองรถเมล์มาที่นี่ประมาณ 10 กว่าสายเพียงแต่ใช้เวลาเป็นชั่วโมงครับกว่าจะถึงครับ
.

.
หนานหนิงก็มีเมืองเก่าแบบเก่าแท้ๆไม่ได้แต่งเติมเสริมใหม่เหมือนที่อื่นแต่อย่างใด เราก็เลยจำเป็นต้องแวะนิดหน่อย เพื่อเดินเที่ยว ทานอาหรเช่น กุ้ง ปลา ปูเล็ก ชุบแป้งทอดอันลือชื่อของเค้า และเดินรอบบริเวณด้วยความชื่นชม
.
เสียอย่างเดียว ตามเวลาเดินรถของท่ารถทัวร์ที่ 鲁班-หลู่ปัน บอกว่า 45 นาทีนั้น เอาเข้าจริง เพราะทั้งฝนพรำและซ่อมทางหลายช่วง เลยปาเข้าไป เกือบ 2 ชั่วโมง...
.
เราเลยเที่ยวได้แค่ชั่วโมงกว่าๆ และไม่ได้นั่งเรือเที่ยวอย่างที่คนส่วนใหญ่ (ที่ขับรถไปเอง) ทำกัน เพราะไม่อยากรอกลับรถเที่ยวสุดท้าย ซึ่งอาจจะถึงเกือบ 5-6 โมงเย็น...
.
แต่เรียนว่าเป็นหมู่บ้านโบร๊าณโบราณ ที่ชาวบ้านยังปิดหน้าหลบกล้องกันอยู่ และ น่าไปมากๆครับ
.

.
ไปมอสโคว์ ไปเซี่ยเหมิน ไม่พลาดมหาลัยของเค้าอย่างไร มาที่หนานหนิง ก็ห้ามพลาด มหาลัยกว่างสี เช่นกัน เพราะอาณาบริเวณกว้างขวางมาก และมีจุดพัก จุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าไปเยี่ยมชมเยอะมากๆ จึงมีผู้คนต่างถิ่นทั้งที่ดูลู่ทางการศึกษาให้ตนเองและพ่อแม่ที่มองหาสถานศึกษาให้ลูกหลานในวันหน้าเต็มไปหมด
.
เดินทางไปง่าย เพราะนั่งรถไฟใต้ดินสาย 1 ไปจากสถานีรถไฟแค่ 2-3 ป้ายเท่านั้น ส่วนเรื่องของทานของใช้ หายห่วงเลยครับ เพราะรอบๆบริเวณและศูนย์การค้าใต้ดินมีตรึมไปหมด ไม่มีคำว่าอดอยาก จะขาดก็แค่ เงิน เท่านั้น อิอิ
.

.
ขออนุญาตว่ากันเรื่อง หนานหนิง เพียงเท่านี้ก่อน เพราะส่วนของ กุ้ยหยาง แม้จะรถติดเช้าเย็น แต่แหล่งท่องเที่ยวในเขตตัวเมืองก็มีเยอะมาก และน่าเที่ยวกว่าที่หนานหนิงเยอะครับ.....เดี๋ยวค่อยว่ากันต่อนะครับ
.
ณ ที่นี่ ขอเรียนเพียงว่า ทุกที่ที่เราไป คุณนายจะพก มะม่วงอบแห้ง ยี่ห้อ Lamoon ไปด้วยเสมอ และเป็นสแน็คที่ทำให้เรามีความสุขเป็นที่อิจฉามารศรีของ ชาวจีนนักนิยมทานมะม่วงเป็นอย่างยิ่ง สนใจเรียนเชิญที่ goo.gl/gs1siq ครับ (อิอิ ได้โฆษณาแล้วววว)
.