
.
Beautiful Rayong-Chanthaburi-งามเด่นจริงนะ ระยอง จันทบุรี
.
9 กันยายน 2561
.
สวัสดีครับ
.
แหะ แหะ หลังจากยกเลิกทริปยาวโรมาเนียฯไปแล้ว อากาศเริ่มเย็นสบายในยุโรป แต่ก็ยังหาเวลายาวๆเกินเดือนไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น...
.
ขอเที่ยวเมืองไทย ที่ห่างหายไม่ได้เจาะลึกเหมือนเที่ยวเทศ ซักที
.
แล้วก็เพิ่งตระหนักว่า....
.
ช่วงไม่กี่ปีที่เราไม่ได้ไปไหนนอกกรุงไกลหน่อยเลยนั้น การท่องเที่ยวไทยเราก้าวหน้าไปชนิดก้าวกระโดด จนทำให้การเที่ยวดินแดนย่านตะวันออกแบบ 3 วันค้าง 2 คืนของเราทริปนี้ ว่าไปก็...
.
ไม่ค่อยต่างจากการเที่ยวใต้หวัน จีน ญี่ปุ่น เท่าไหร่...
.
เพราะเวลาไปเมืองเล็กๆในใต้หวัน จีน ญี่ปุ่น (หรือในยุโรปก็ตาม) เราก็ไปตามแหล่งที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ๆของชาวบ้าน ค่อยๆเดิน ค่อยๆถ่ายรูป ค่อยๆพูดคุยกับชาวบ้านร้านถิ่น และท่องตลาดแบบเดียวกันเป๊ะ จนแทบจะอดรู้สึกไม่ได้ว่า....
.
เอ...แบบนี้ ขอเที่ยวไทยนานๆ เลิกเที่ยวนอกในเอเซียสักพัก ท่าจะดี
.
ทริป 3 วัน 6-7-8 กันยายนนี้ ต้องขอขอบพระคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจริงๆ ที่สร้างสรรค์จรรโลงของดีๆในไทยให้โดดเด่นขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ และคาดไม่ถึงจริงๆว่า ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเมืองไทยกันออกโครมๆ ก็เพราะผลงานที่ทำมาจริงๆ
.
ขอเวลาสักพักนะครับ แล้วจะว่ารีวิวตั้งแต่ระยอง ไปจนถึงจันทบุรี ในถิ่นที่เราไม่เคยไปมาก่อน ซึ่งมีมากมายเหลือคณานับ และแม้จะไปวันธรรมดาเสีย 2 ครึ่ง ใน 3 วัน (เจอฝนกระหน่ำครึ่งวัน จนต้องหลับเที่ยงวันเสาร์ไม่ไปต่อดังตั้งใจ) เราเหล่า สว. ผู้สวมจิตวิญญาณของหนุ่มสาว ก็มีความสุขใจอย่างบอกไม่ถูกเลย....
.
ขอขอบคุณที่ติดตามตลอด รีวิวเมืองนอกที่ผ่านมาอีกหลายกระบุงจะค่อยๆตามมาทีหลังนะครับ
.

.
10 กันยายน 2561
.
สวัสดีครับ
.
แหะ แหะ ไม่อยากจะเชื่อเลยครับว่า ทริปท่องเที่ยวหลังเกษียณครั้งแรกของเราที่เกาะช้างนั้น ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว....
.
ยังจำได้เลยครับว่า การไปเกาะช้างครั้งแรกนั้น ยังกล้าๆกลัวๆ (สำหรับคุณนาย) อยู่ ผมก็จึงเดินทางด้วยรถทัวร์ที่สถานีเอกมัยเวลา 5 ทุ่มเศษในคืนหนึ่ง เพื่อไปลงที่จังหวัดตราดตอนเช้าตรู่ ก่อนหารถราไปเที่ยวที่นั่นอีกที
.
แต่จะด้วยโชคหรืออะไรไม่ทราบ ถึงตลาดตราดตอนเช้ามืด ทานปาท่องโก๋กาแฟไปครู่หนึ่ง เพียงซักไซ้ไล่เรียงว่าจะต้องขึ้นรถสองแถวไปท่าเรือเซ็นเตอร์พ้อยท์-อ่าวธรรมชาติอย่างไร แล้วก็ได้เจอสุภาพบุรุษท่านหนึ่งที่อยู่แหลมงอบเข้าให้พอดี ก็เลยใจง่าย+โชคดี ขึ้นรถกระบะของเค้าไปนั่งรอที่ท่าเรือ
.
จากท่าเรือไปเกาะช้าง ไม่ยุ่งยากอะไร ได้ความรู้จากเพื่อนร่วมทางมาบานตะเกียง...ถึงเกาะช้าง เช่ามอไซค์ แล้วก็ร่อนไปทั่วเกาะจนเย็น ก่อนขึ้นเรือกลับรถทัวร์คืนมายัง กทม.ในวันเดียวกัน
.
แล้วหลังจากนั้น.... เกาะช้างก็กลายเป็นจุดพักผ่อนของเราไป โดยรู้จากการพูดคุยกับคนท้องถิ่นแค่ว่า ที่เด่นๆก็คือ น้ำตกคลองพลู ....หารู้ไม่ว่า ไปเกาะช้างแล้วไม่ไปดำน้ำหรือสน็อคเกิ้ล อยาไปดีกว่า...
.
จนครั้งที่สามหลังจากนั้น จึงมีผู้รู้และมีน้ำใจแนะนำให้ไปที่บางเบ้า ได้รู้จักกับคุณชิต คุณติ๋ม บิดามารดาของคุณหนู เจ้าของเรืออิทธิพลทัวร์ ผู้นำเที่ยวทางเรือ สน็อคเกิ้ลหนึ่งวันเต็มกับ 4 เกาะ อาหารตลอดเวลาโดย เจ๊ยิ่งคนสวย (goo.gl/oUKkyP) แล้วก็กลายเป็นเพื่อนเป็นญาติกันจนถึงปัจจุบัน....
.
.
ที่เรียนเพื่อนๆถึงเรื่องเกาะช้าง ก็เพื่อบอกเล่าความหลังว่า.... ระยอง จันทบุรีนั้น เป็นทางผ่านที่เราไปบ่อยมากๆ จนแทบจะหลับตาเห็นทุกส่วนสัดของ บ้านฉาง มาบตะพุด แหลมเสด็จ น้ำตกกะทิง น้ำตกพลิ้ว ฯลฯ รวมทั้งตลาดสดระยอง ตลาดน้ำพุ จันทบุรี แต่......
.
ที่อื่นๆที่เราไปรอบนี้ ล้วนเป็นของใหม่ที่ส่วนหนึ่งสร้างสรรค์โดยความร่วมมือของ การท่องเที่ยวฯ และชาวชุมชนเป็นการเฉพาะ (ไม่เหมือนคืนพิธีไหว้พระจันทร์ที่ เมืองพนัสนิคม ที่ชาวบ้านนร้านช่องลุยกันเอง เดี๋ยวนี้ไม่ทราบว่ายังมีโต๊ะบูชา ซุ้มต้นอ้อยเช่นเดิมหรือเปล่า) จนทำให้...
.
ทริป 2 วันครึ่ง 2 คืน เที่ยวนี้ ให้ความรู้สึกที่อิ่มเอมจนแทบจะไปอยากไปที่ไหนอื่นในย่านเอเซียนี้อีกเลยอ่ะครับ
.

.
ทริปนี้ มีความพิถึพิถันกว่าทริปที่แล้วหน่อย ตรงที่ไม่ต้องค้นหาอากู๋ว่า ที่เที่ยวอยู่ที่ไหน ของอร่อยคือที่ใด ให้ยุ่งยาก เพราะการ "เช็คอินถิ่นเมืองรอง" ตามเว็บสแตนดาร์ด (goo.gl/BDvRQJ) และเว็บการท่องเที่ยวฯ ก็ได้ไอเดียจนนับไม่ถ้วน กระทั่งการเที่ยว 2 คืน 1 วันเป็นไปไม่ได้เลย
.
จึงนอกจากได้ทริป 3 วัน 2 คืนมาแล้ว ยังได้โครงการอื่นๆที่ไม่ไกลจาก กทม.มาก (ขับรถไม่เหนื่อย) ติดปลายนวมมาเยอะแยะอย่างที่เห็นในภาพ สำหรับโอกาสต่อๆไปไม่ไกลเกินรอด้วยครับ อิอิ
.

.
จาก กทม. ไปทางชลบุรี เลี้ยวซ้ายตามป้ายข้างทางไปบ้านบึง จันทบุรี แกลง แล้วก็มีทางให้ไประยองโดยไม่ยาก (ต่างจากทุกครั้งที่เราผ่านทางพัทยา บ้านฉางฯลฯ)
.
จุดหมายแรกก็คือ ถนนคนเดินยมจินดา (นามสกุลของคุณจักรพันธ์ ที่เคยเล่าทางทีวีว่า เข็ดมูลอ่อนมูลแก่กับชีวิต สส.ที่ต้องรับใช้เอาใจชาวบ้านแลกกับคะแนนเสียง 55) ตลาดเก่าที่ได้รับการฟื้นฟูจากการกระตุ้นของการท่องเที่ยวฯครับ
.
จอดรถริมทางตรงเลยตลาดสดไปหน่อย แล้วก็ลงเดินเข้าซอย ที่แม้จะเป็นวันธรรมดา แต่ร้านค้าส่วนใหญ่ยังรองรับคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวพอประมาณ จึงเดินสบาย ไม่ร้อน (มาก) และน่าดูชมเป็นที่สุดในความ ครีเอท ของผู้คนชาวระยองฮิ
.
ป้ายบอกทางไปแหล่งห้ามพลาด.....บ้านไม้เก่าโบราณลงสีเงางาม....บ้านเพาะพันธุ์สุนัขหลังอานที่อุตส่าห์ทำเซรามิกเป็นรูปสุนับข้างประตู....ศิลปะกราฟฟิตี้-Graffiti บนกำแพง.....
.

.
แล้วก็ถึงบ้านสะพานไม้ ที่ในซอยราษฎร์บำรุงข้างๆ มีของอร่อยเพียบตั้งแต่ ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง...ก๋วยเตี๋ยวหลอดหลายไส้แบบขนมกุยช่าย...น้ำพริกปลาทู..ของหวาน...ขนมจีน...จนเราเปลี่ยนใจจากการคิดหิ้วท้องไปทานก๋วยเตี๋ยวเจ้าดังอายุกว่า 50 ปีด้านใน ตกลงทานขนมจีนและก๋วยเต๊๋ยวหลอดที่นี่เสียเลย
.
ขนมจีนน้ำพริกน้ำยา จานละ 30 บาท น้ำพริกน้ำยาเปล่าๆ 20 บาท (เห็นเนื้อปลาหนาแน่น แบบที่เค้าเรียกว่านัวไปหมด) แซ่บสูดปากกับผักสดและดอกอัญชัน (ที่คุณแม่ค้ากรุณาแนะนำว่าอร่อย) จนบอกเค้าว่า ขากลับวันเสาร์จะแวะมาหิ้วใส่ถุงกลับบ้าน (แต่แล้วก็เจอฝนกระหน่ำจนต้องผลัดเป็นวันหลัง ฮือฮือ)...
.
ก๋วยเตี๋ยวหลอด 8 ชิ้น 4 ไส้ กุยช่าย มันแกว กะหล่ำ และ เผือก รสชาติเด็ดขาดไม่แพ้เจ้าดังตลาดพลู แต่ราคาถูกกว่าคือ 60 บาทเท่านั้น
.
ว่าแล้ว ก็อุดหนุนของหวานที่ลูกค้ารอตักตรึมหลายชุด ไว้ทานยามค่ำ...มายก็อด..เจ้าดังแท้ๆ ชุดละ 10 บาทเท่านั้นเอง ซึ่งแถวตลาดนอกเมือง กทม. ที่ทำแบบขอไปทียังปาเข้าไป 12-15 บาทแล้ว...
.
พี่สาวแวะซื้อน้ำพริกปลาทูฝั่งตรงข้ามเผื่อกลับ กทม.ด้วย เจ้าของร้านบอกว่า แค่บ่าย 3 ก็เกลี้ยงแล้ว 555...
.

.
ยังครับ ยังไม่ทานก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง.....ถัดไปเป็นกุยช่ายคุณนุช เจ้าที่ได้ลงหนังสือพิมพ์ แต่ท้องไส้ไม่ไหวแล้ว ขอผลัดไปเที่ยวหน้าครับ.....
.
ข้าวสารราคาถูก ก็ต้องบาย เพราะเดี๋ยวนี้ทานไม่เยอะ ที่บ้านมีไร้ซ์เบอร์รี่ตุนอยู่ไม่น้อย...
.
ร้านนี้มีกล้วยหินใบเบ้อเริ่มทั้งเครือทั้งหวี รอแป๊บ เดี๋ยวขากลับจะแวะ 5555....
.
ศาลเจ้าแม่ทับทิม ที่ชาวไหหลำและลัทธิอื่นๆเคารพสักการะ...
.
ร้าน Kuad ที่ใช้ขอขวดอักษรไทยแทนตัวอักษร U จำหน่ายสุรานานาชนิดและเครื่องพลอยด้วย.....
.
ร้านหมอนวดแผนไทยโดยหมอตง น่าสนแต่ไม่มีเวลา....
.
ตลาดสดเทศบาลที่สร้างใหม่ในปี พศ. 2543 เกือบ 20 ปัแล้วยังดูใหม่เอี่ยมอ่องอยู่เลย ด้านในวันหยุดผู้คนคงเพียบ
.

.
แล้วก็มาถึง พิพิธภัณฑ์เมืองระยองที่มีของดีเยอะแยะทั้งภายนอกภายใน แถมยังเข้าชมฟรีด้วย มีรูปปั้นผีเสื้อสมุทรคอยต้อนรับด้านหน้า
.
ส่วนภายใน นอกจากข้าวของโบราณมากมายแล้ว คุณนายถือโอกาสถ่ายภาพกับภาพคุณเพชรา เชาวราฎร์ที่ปัจจุบันล่าสุดก็ยังสวยสง่ามิเสื่อมคลายด้วย
.

.
ภาพวาดเมืองโบราณข้างกำแพงริมแม่น้ำ....
.
แม่น้ำสายนี้เองที่เป็นทางผ่านให้เรือสินค้าขนถ่ายข้าวของทางการพาณิชย์ จนถนนยมจินดากลายเป็นถนนหลักในอดีตไป
.

.
ฝากำแพงอีกด้านเป็นพระบรมสาทิสลักษณ์ของสมเด็จพระเทพฯในพระอิริยาบทต่างๆ มีภาษาจีนที่พระองค์ทรงโปรดกำกับ เพื่อชาวจีนในไทยและนักท่องเที่ยวด้วย..
.

.
และนี่คือตัวอย่างส่วนหนึ่งที่ผมขออัญเชิญมา ณ ที่นี่ครับ
.

.
ถ่ายภาพกับวัวเทียมเกวียนด้านนอกพิพิธภัณฑ์ฯ โดยมือหิ้วหมอนยัดนุ่นจากร้านจำหน่ายหนังสือธรรมมะข้างๆร้านส้มตำ (ที่ปิดวันธรรมดา) 2 ใบ ที่พี่สาวบอกว่า "...ยัดด้วยนุ่นล้วนๆ กี่ปีๆก็ไม่มีการแฟบเหมือนหมอนอื่นๆแถมจากแดดแล้วหอมหวลชวนหนุนด้วย ใบละ 300 บาทอย่างนี้ หาซื้อใน กทม.ไม่ได้เด็ด..."
.
ฝากหมอนไว้ที่ร้าน แล้วเดินต่อ...
.